"กรรมทุกอย่างที่นรชนสั่งสมไว้แล้ว ย่อมมีผลเสมอไป ขึ้นชื่อว่ากรรมแม้จะเล็กน้อย ที่จะไม่ให้ผลเป็นอันไม่มี" พระไตรปิฎก เล่ม 43 หน้า 607
หลายปีก่อน เราเคยเจ็บป่วยหนักต้องนอนอยู่รพ.เป็นเดือน ต้องผ่าตัดทั้งมือซ้ายและขาซ้าย ความเจ็บปวดจากร่างกายที่บาดเจ็บ ทางจิตใจที่วิตกกังวลหมดที่พึ่ง ปัญหาการงานตามเข้ามาอีก จนหาทางไปไม่ถูกเลยจริงๆ
แม้จะต้องเจ็บป่วยอยู่บนเตียง มีสายห้อยระโยงระยางหลายเส้น เวลาอยู่คนเดียวในห้องต้องคลานจากเตียงเข้าห้องน้ำเอง ทั้งมือและเท้าซ้ายก็เข้าเฝือกอยู่ แต่โอกาสที่จะพักงานและมีเวลาอยู่กับตัวเองนานๆ เช่นนี้หายากยิ่งนัก เวลาที่เราจะได้หยุดคิดพิจารณาเรื่องต่างๆมากมายที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เพื่อนๆหลายคนมาเยี่ยมและกล่าวว่า "เสียใจด้วยนะ" " เจ็บไหม" "หายเร็วๆนะ" ใครเคยกระดูกหัก ถูกผ่าตัด ก็คงเข้าใจว่ากว่าจะหายเจ็บนั้นนานแค่ไหน แต่ก็ไม่รู้จะบอกเขาไปว่าเจ็บ หรือบ่นๆไปจะมีประโยชน์อย่างไร เวลาเช่นนี้คงได้แต่ฟื้นฟูหลักธรรมคำสอนที่ครูจารย์ทั้งหลายที่เคยสอนเรามา เอามาปัดฝุ่นพิจารณาอีกครั้ง พระธรรมเป็นที่พึ่งได้เสมอจริงๆ กรรมและกฏแห่งกรรม แน่นอนและไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ หลังจากได้มีเวลาภาวนาได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองสักระยะ ข้อความมากมายเกิดขึ้นให้ได้ยินผ่านใจฉัน ถึงกรรมและผลของกรรมที่เราทำไป ภาพต่างๆปรากฏขึ้นจนเราต้องยอมรับและรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำไป แน่นอนผลที่เกิดในวันนี้-เราก็ต้องก้มหน้ายอมรับอย่างเต็มใจ เมื่อเข้าใจกรรมนี้แล้ว เราก็กลับไปใช้ชีวิตตามเดิมที่เคยกระทำอีกครั้ง เช้าตื่นมาก็ขอให้คนมาเข็นรถไปตักบาตรหน้ารพ. สายๆก็ออกไปตรวจรักษาผป.ที่โอพีดีจนเย็น เท่าที่ทำได้ เย็นกลับมาก็ภาวนาบนเตียงผป. หรือไม่ก็อ่านหนังสือไป เพราะกรรมที่เราต้องรับจะมีทั้งร่างกายและจิตใจ กายนั้นเราอาจแก้ไขไม่ได้มากนัก แต่ใจนั้น ถ้าเรามีกำลังใจมากขึ้นๆพอ กรรมที่จะเกิดกับใจก็จะมีผลน้อยลงๆ เมื่อเราพอที่จะแยกกายออกจากใจได้ แม้ความรู้สึกที่ร่างกายยังเจ็บปวด แต่ใจก็มีกำลังที่จะใช้งานส่วนที่เหลือที่ไม่เจ็บปวดได้ต่อไป
เมื่อเรายอมรับกฏแห่งกรรม เราก็จะยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราได้ง่ายขึ้น เรื่องที่ผ่านมาก็ต้องปล่อยให้ผ่านไป เรื่องที่จะเกิดต่อไปก็ย่อมเกิดจากการ กระทำในวันนี้ของเรานั้นเอง ครูจารย์บางท่านเตือนเราเรื่อง *เกลือ*
เกลือ กับ กรรม
เกลือเปรียบเสมือนกรรมที่เราต้องรับ เมื่อใส่ลงในน้ำจำนวนน้อยความเค็มก็ไม่เปลี่ยนไปมากนัก แต่ถ้าเราใส่น้ำลงไปมากๆๆๆ ความเค็มของเกลือเม็ดนั้นอาจทำให้เราไม่รู้สึกถึงมันอีกเลยก็ได้ นั้นคือ กรรมที่เราต้องรับวันนี้ หากเราทำบุญกุศลเหมือนน้ำที่ใส่ลงไปในแก้วน้ำใส่เกลือ มากขึ้นๆ บุญกุศลนั้นก็ย่อมทำให้เกลือหายเค็ม ทำให้กรรมที่เกิดขึ้นมีผลน้อยลงๆๆจนแถบจะทำให้เราไม่รู้สึกมันเลยก็ได้ แต่......บุญกุศลเหล่านั้น เราทำแล้วหรือยัง? (กลับกันถ้าเกลือเป็นกรรมดี น้ำที่ใส่ไปเป็นบาป ก็สุดที่จะเอ่ยแล้ว)
กรรม...ยังอาจเปรียบดังสุนัขไล่เนื้อ ถ้าบุญกุศลเรามากพอ ก็จะเปรียบเสมือนเรามีพลังที่จะวิ่งให้เร็วกว่าสุนัขตัวนั้น เราอาจถึงเส้นชัยก่อนจะถูกกัดก็ได้
ยังคงจำวันนั้นได้ดี ขณะที่นั่งภาวนาอยู่บนเตียงผป. จิตรวมลงและย้อนเห็นอดีต..กรรมที่เราได้กระทำไป ใจน้อมลงไปถึงคำสอนขององค์พระศาสดา จิตใจว่างเปล่า ความเจ็บปวดหายไป เสียงเบาๆแต่ชัดเจนดังออกจากใจ ผ่านไปนานเท่าไรจำไม่ได้แต่พอรู้ตัวอีกครั้งมีพยาบาลมาเปิดไฟที่ห้องเตรียมมาวัดไข้วัดความดัน เราจึงไหว้พระ ทำวัตรเช้าและอธิษฐานในใจว่าจะกระทำตามเสียงที่ดังกระซิบผ่านใจมาให้เราได้ยิน - กระทำกรรมดี - มีชีวิตเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น -สร้างสาธารณประโยชน์ต่อสังคมและโลกใบนี้..ตลอดไป.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น