วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2563

ภาวนาสัญจร ครูจารย์บุญมี

 พระคุณของพ่อแม่ครูอาจารย์บุญมี

ที่เมตตามาให้การอบรมพวกเรา ณ อยุธยา
ตั้งแต่ครูจารย์บุญมีท่านส่งคณะศิษย์มาช่วยดูแล วัชรธรรมสถานขององค์หลวงตาพระมหาบัว และวัด ป่าบัวแก้ว ญาณสัมปันนุสรณ์ ที่มูลนิธิดวงแก้วฯสร้างถวายองค์พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงตาพระมหาบัว
ครูจารย์ท่านก็เมตตาให้การอบรมปฏิบัติภาวนาแก่พวกเรามาโดยตลอด ทั้งที่วัชรธรรมสถาน และระหว่างการจาริกแสวงบุญประจำปีทั้งในและต่างประเทศเป็นประจำตลอดหลายปีที่ผ่านมา ครูจารย์ บุญมีท่านได้ให้ความสำคัญกับการปฏิบัติภาวนาเป็นอย่างยิ่ง เพราะในแต่ละครั้งไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรสามวันห้าวันสิบวัน ที่ครูจารย์ท่านต้องอยู่ร่วมปฏิบัติภาวนาให้การอบรมธรรมให้กับพวกเราด้วยตลอดการอบรม ซึ่งเป็นการงานที่ค่อนข้างหนักมากตั้งแต่ตีสามจนเที่ยงคืน และปัจจุบันนี้มีครูจารย์ยิ่งน้อยกว่าน้อยที่จะยอมเสียสละแรงกายแรงใจมาช่วยผลักดันสั่งสอนให้เราได้หลักในการปฏิบัติภาวนาลักษณะเหมือนจับมือสอนหรือป้อนอาหารใส่ปากเช่นนี้ เพราะแค่ไปร่วมงานตามที่ต่างๆท่านก็เหนื่อยพอแล้ว ทั้งๆที่ครูจารย์บุญมีอายุท่านก็มากแล้ว ธรรมะที่ท่านให้ก็เป็นไปเพื่อการพัฒนาจิตใจของพวกเราให้ได้เข้าถึงความสงบ และปัญญาพิจารณาธรรมอย่างแท้จริง มิได้สอนให้พวกเรามัวเมากับลาภสักการะชื่อเสียง เงินทองหรือความร่ำรวย เช่นพระอีกหลายๆท่าน ที่เราได้เห็นกันอยู่ทั่วๆไป
ในปีนี้เราไม่สามารถจัดการอบรมปฏิบัติธรรมในต่างประเทศได้เหมือนทุกๆปี เราจึงได้จัดกิจกรรม ภาวนาสัญจรขึ้น ณ เมืองหลวงเก่าอยุธยาศรีธานี โดยกราบขออนุญาตท่านเจ้าอาวาส วัดใหญ่ชัยมงคล ใช้ที่อบรมปฏิบัติธรรมของวัดให้พวกเราได้ภาวนาร่วมกัน ตามหลักสูตรของ วัชรธรรมสถาน แต่จะมีภาวนากลางแจ้งตลอดเย็นถึงเที่ยงคืน ณ บริเวณองค์พระเจดีย์ เพื่อได้บรรยากาศของการปฏิบัติภาวนานอกสถานที่และเป็นการสร้างความเพียร ความอดทน และเพิ่มสติปัญญาพิจารณาธรรมยิ่งๆขึ้น
ครูจารย์บุญมีท่านจะมีวิธีอบรมโดยสอนการปฏิบัติพื้นฐานในการนั่งสมาธิ เดินจงกรม การเจริญสติ การให้ฟังพระธรรมเทศนาไประหว่างการนั่งสมาธิ เพื่อให้จิตมีสติพิจารณาไปตามอรรถตามธรรม ผู้ที่ปฏิบัติภาวนาอยู่ประจำ เมื่อติดขัดอยู่ตรงที่หนึ่งที่ใด พอฟังธรรมของท่านตรงนั้นๆ ท่านก็เหมือนจะพาเราผ่านปัญหาอุปสรรคไปตามพระธรรมคำสอนนั้นๆ ทำให้เราผ่านอุปสรรคการภาวนาไปอีกขั้นหนึ่งทีเดียวครับ สำหรับท่านผู้เสียสละมาเป็นธรรมะบริกรช่วยดูแลช่วยเหลือผู้อบรมปฏิบัติธรรม เราก็จะมีข้อกำหนดให้เก็บธรรมเหล่านั้นมาสรุปให้ฟังกันในที่ประชุมด้วย เพราะการจะสรุปธรรมที่ครูจารย์ที่ท่านแสดงให้ฟังได้นั้น ผู้ฟังจะต้องมีสติ มีสมาธิ และมีความเพียร ความตั้งใจเพิ่มขึ้นหลายเท่ามากกว่าผู้ปฏิบัติผู้อบรมทั่วไป เป็นกุศโลบายที่ครูจารย์มักใช้กับลูกศิษย์ที่อยู่ใกล้ชิดเพื่อสร้างสติปัญญาให้เพิ่มขึ้น ดังที่เราใช้คำว่าเมื่อศิษย์อยู่ใกล้ชิดครูจารย์สิ่งที่ต้องปฏิบัติคือการ “สำรวมระวัง” ก็เป็นเช่นนี้เอง การตั้งใจจดจำธรรมครูจารย์จึงเป็นงานอย่างหนึ่งที่ครูจารย์ท่านให้ฝึกเพื่อเป็นการสร้างสติปัญญานั้นเอง
ระหว่าง10-13ธ.ค.63นี้ ท่านที่เป็นธรรมะบริกรคงต้องมีงานหนักยิ่งกว่างานที่วัชรธรรมสถานนะครับ ส่วนผู้ปฏิบัติเราก็รับเฉพาะผู้ที่ผ่านการอบรมที่วัชรธรรมตามรูปแบบมาจนรู้จักระเบียบวินัยเป็นอย่างดีแล้วเท่านั้น ผู้ที่ไม่เคยผ่านการอบรมหรือผ่านแต่กระทำผิดระเบียบเราจึงไม่รับเข้าอบรม เพราะอาจทำตัวไม่ถูกกับระเบียบรบกวนการปฏิบัติของผู้อื่น เช่นการแต่งกาย การสำรวมระวัง การพูดคุยเป็นต้น จึงกราบขออภัยมา ณ ที่นี้นะครับ จึงเป็นเหตุให้ผู้เข้าปฏิบัติอบรม ต้องกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มนี้ทุกๆท่านนะครับ
.**** https://forms.gle/KjabhEqwzAXrojzL8
****.
ขออำนาจอธิฐานบารมีที่ทุกคนตั้งจะที่จะอบรมปฏิบัติธรรมในครั้งนี้จงเป็นบาทเป็นฐานในการบรรลุธรรมต่อไปในทุกภพทุกชาตินะครับ ด้วยความรัก ความปรารถนาดี จากใจ

ไม่มีความคิดเห็น: