วันพุธที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2566

ทริบจาริกบุญอินเดีย 1-6ธค.66

 


ร่างกำหนดการเดินทางจาริกบุญอินเดียเนปาล 1-6 ธันวาคม 2566 

จาริกบุญอินเดีย- เนปาล ณ สังเวชนียสถาน 6 วัน 5 คืน  1-6 ธ.ค. 66 

 กราบนมัสการพุทธสังเวชนียสถานได้แก่   

       ๑ .  สวนลุมพินีวัน  สถานที่ที่พระโพธิสัตว์เจ้าทรงประสูติจากครรภ์ พระพุทธมารดา   

       ๒ .  เมืองกุสินารา สถานที่ทรงเสด็จเข้าสู่ปรินิพพานด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุ   

             ซึ่งพระผู้มีภาคเจ้าที่ทรงตรัสไว้กับพระอานนท์ ปรากฏไว้ในพระไตรปิฎก ฉบับมหาปรินิพานสูตรว่า.-  

             อานนท์ ชนทั้งหลายเหล่าใดเหล่าหนึ่ง ได้เที่ยวไปยังเจดีย์สังเวชนียสถานเหล่านี้ด้วยความเลื่อมใส

ชนเหล่านั้น ครั้นทำกาลกิริยาลง จักเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์” 

เส้นทาง   กรุงเทพ-ลัคเนาว์-สาวัตถี–ลุมพินี-กบิลพัสดุ์-กุสินารา–ลัคเนาว์-กรุงเทพ 

*****ผู้ตัดสินใจเดินทางร่วมคณะ ขอให้ทราบว่าเราไปปฏิบัติภาวนา มิได้ไปเที่ยว ถ้าเป็นไปได้ขอให้เคยผ่านอบรมที่วัชรธรรมมาแล้ว และคิดว่ากำลังอบรมอยู่ตลอดการเดินทาง คือรักษากาย รักษาใจ ถือศีล8 ภาวนา ตลอดเส้นทางนะครับ***** 

ร่วมบุญได้ที่   ธ.ทหารไทย เลขที่ 040-233-6242           

 "วัชรธรรม"หรือพร้อมเพย์ 089-892-8822 

ส่งหลักฐานการโอนมาที่ vacharadham@gmail.com 
ติดต่อสอบถามโทร. 085-123-9952/ 081-875-5588 / LINE id: dkf33

 

 

วันแรก 1 ธ.ค. 66 กรุงเทพ-ลัคเนาว์

16.30 น. คณะมาพร้อมกันที่ สนามบินดอนเมือง ผู้โดยสารขาออกชั้น 3 เทอมิเนอร์ 1 เคาน์เตอร์ 1-2 เช็คอินกรุ๊ปของสายการบิน แอร์เอเซีย( AIR ASIA ) หมายเหตุ POWER BANK ถือขึ้นเครื่อง และ ต้องมี แบตไม่เกิน  1 หมื่นแอมป์  **สายการบินไม่อนุญาตให้นํา power bank และอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิด ใสในกระเป๋าที่จะโหลดใต้ท้องเครื่องซึ่งมีนน.ไม่เกิน 20กก. **

20.10 น. ออกเดินทางสู่ เมืองลัคเนาว์ โดยสายการบินแอร์เอเซีย เที่ยวบินที่ FD 146  (20.00-22.30)

22.30 น. ถึงสนามบิน เมืองลัคเนาว์ ประเทศอินเดีย (เวลาท้องถิ่น ช้ากว่าประเทศไทย 01.30 ชั่วโมง) และผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร แล้วนำท่านเข้าสู่ที่พัก           -           เปิดทริปจาริกบุญที่ ลัคเนาว์ 

ด้วยความที่เราเดินทางจากสุวรรณภูมิประมาณ 20.00 น. มาถึงลัคเนาว์เป็นเวลาอินเดียประมาณสี่ทุ่มครึ่ง (รวมประมาณ 3ชั่วโมงครึ่ง)นั่งรถต่อไปสาวัตถีที่ต้องใช้เวลานานถึง 4 ชั่วโมง  เพื่อมาพักที่โรงแรมก่อน จึงมองไม่เห็นอะไรมากนักเพียงวิถีชนบทของอินเดีย ตอนกลางคืน อันได้แก่ท้องทุ่ง บ้านเรือนที่ปลูกกันง่ายๆ รวมถึงตลาดสลับกันไป   (เรื่องปลั๊กไฟที่อินเดีย ก่อนไปค่อนข้างกังวลเรื่อง adaptor ว่าจะใช้ได้หรือไม่ ปรากฏว่าโรงแรมทุกแห่งที่เข้าพัก ปลั๊กไฟสามารถใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าจากบ้านเราได้เลย แต่เตรียมไปย่อมดีกว่า) 

 

วันที่ 2 ธ.ค.   เมืองหลวงแห่งแคว้นโกศล – สาวัตถี

05.00   ทำวัตรเช้า-ปฏิบัติภาวนา

07.00   ถวายจังหัน-รับประมานอาหารเช้า

08.00   วัดไทยเชตะวัน ใกล้ที่แสดงยมกปาฏิหาริย์-ถวายปัจจัยไทยธรรม

            + บ้านท่านอนาถะ + บ้านท่านองคุลิมาล

11.30   อาหารกลางวัน

14.30   เชตวันมหาวิหาร-ปฏิบัติภาวนา

21.30  Hotel Platinum

 

วัดเชตวันมหาวิหาร 

วัดเชตวันมหาวิหาร พระอารามที่พระพุทธเจ้าจำพรรษามากที่สุดถึง 19 พรรษา พระธรรมบท 332 เรื่อง เกิดขึ้นทีนี่  ในสมัยพุทธกาลนั้น กล่าวกันว่าเป็นวัดที่มีขนาดใหญ่ สร้างขึ้นจากศรัทธาของนายสุทัตตะซึ่งชาวบ้านนิยมเรียกกันว่าอนาถบิณฑิกเศรษฐีหลังจากได้รับฟังพระธรรมเทศนาของพระพุทธเจ้าเมื่อครั้งไปค้าขายที่เมืองราชคฤห์ จึงอาราธนาพระองค์มาประทับที่เมืองสาวัตถี โดยซื้อพื้นที่ดินของเจ้าเชตมาสร้างเป็นวัด เล่ากันว่าเจ้าเชตให้อนาถบิณฑิกเศรษฐีนำเหรียญทองมาปูให้เต็มพื้นที่ที่จะสร้างวัด ด้วยความที่ไม่อยากจะขาย หากเมื่อเห็นศรัทธาอันแรงกล้าของอนาถบิณฑิกเศรษฐี จึงยอมขายด้วยราคาแพงถึง 18 โกฏิ เมื่อรวมการสร้างวัดและถาวรวัตถุต่างๆรวมอัก 36 โกฎิ วัดแห่งนี้มีราคาถึง 54 โกฏิ (1 โกฏิ เท่ากับ 10 ล้าน) แต่ให้เว้นที่ทางเข้าไว้และใช้ชื่อวัดว่าเชตวัน 

 

วันที่ 3 ธ.ค.           สาวัตถี-ลุมพินี

05.00    ทำวัตรเช้า-ปฏิบัติภาวนา

07.00    ถวายจังหัน-รับประมานอาหารเช้า

08.00    วัดไทยกบิลพัสดุ์-วัดไทยนิโคธาราม-ถวายปัจจัยไทยธรรม

11.30    อาหารกลางวัน

15.00    มหาวิหาร มายาเทวี-ปฏิบัติภาวนา

18.00    วัดไทยลุมพินี-ถวายปัจจัย ร่วมผ่าตัดตาชาวเนปาล-

19.00    Hotel Asia Buddha 

 

กรุงกบิลพัสดุ์ (Kapilavastu)

กรุงกบิลพัสดุ์ เป็นชื่อเมืองหลวงของแคว้นสักกะ แม้ว่าจะไม่เป็นสังเวชนียสถาน แต่ก็มีความเกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าเป็นอย่างมาก เพราะเมืองนี้เป็นเมืองของพระเจ้าสุทโธทนะผู้เป็นพระราชบิดาของเจ้าชายสิทธัตถะซึ่งต่อมาได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า เรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย 

กบิลพัสดุ์ แปลตามศัพท์ว่าที่อยู่ของกบิลดาบสเพราะบริเวณที่ตั้งเมืองนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของดาบสชื่อ กบิล พวกเจ้าศากยะได้มาจับจองตั้งเป็นเมืองขึ้นและตั้งชื่อเมืองใหม่นี้ว่ากบิลพัสดุ์ เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่กบิลดาบส   พระถังซัมจั๋ง ได้พรรณนา เมืองกบิลพัสดุ์แห่งนี้ว่าแคว้นกบิลพัสดุ์ มีอาณาเขตโดยรอบ ประมาณ 4000 ลี้ เขตนครหลวงโดยรอบ ประมาณ 1000 ลี้ เป็นที่ร้าง ปรักหักพัง กำแพงพระราชวัง โดยรอบราว 15 ลี้ เหลือแต่ฐาน ก่อด้วยอิฐแข็งแรงมากกรุงกบิลพัสดุ์ใหม่นี้ถูกสัญนิษฐานว่า หลังจากเจ้าศากยวงศ์ทั้งหลายถูกทำลายโดยพระเจ้าวิฑูทภะ ที่ยังเหลืออยู่ก็ได้มาสร้างวังแห่งใหม่ ณ สถานที่แห่งนี้ และสร้างสถูปพร้อมบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ด้วย ซึ่งเมืองกบิลพัสดุ์เก่านั้น ปัจจุบันอยู่ในเขตประเทศเนปาล ห่างจากลุมพินีวันทางทิศเหนือ 22 กิโลเมตร ที่นี่ยังพบผอบหินสบู่ (Soap Stone) ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมอักษรพรหมีที่สลักเป็นหลักฐานว่า นี้คือพระบรมสารีริกธาตุ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จากศากยวงศ์   

 

"สถานที่ประสูติของพระบรมศาสดา"  ลุมพินีสถาน เมืองไภรวา ประเทศเนปาล 

  ปัจจุบันลุมพินีวันอยู่ในเขตประเทศเนปาล ติดชายแดนประเทศอินเดีย อยู่ทางเหนือเมืองโคราฆปุระ ตั้งอยู่ระหว่างเมืองกบิลพัสดุ์และเมืองเทวทหะ ลุมพินีวัน มีเนื้อที่ประมาณ 2,000 ไร่ เป็นที่ตั้งของ "วิหารมายเทวี" สถานที่ประสูติของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งภายในวิหารจะมี "รูปปั้นของพระนางมายาเทวี" ขณะกำลังให้กำเนิดเจ้าชายสิทธัตถะ และรูปรอยพระบาทของเจ้าชายสิทธัตถะส่วนภายนอกเป็นที่ตั้งของ "เสาหินพระเจ้าอโศก" ที่จารึกว่า สถานที่แห่งนี้ เป็นสถานที่ประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ และมี "สระโบกขรณี" อยู่ที่ด้านหลังของวิหารมายเทวี  

 

วันที่ 4 ธ.ค.   ลุมพินี-กุสินารา

05.00    ทำวัตรเช้า-ปฏิบัติภาวนา

07.00    ถวายจังหัน-รับประมานอาหารเช้า

08.00    พระวิหารมายาเทวี  Maya – ปฏิบัติภาวนา

10.00    อาหารกลางวัน

15.00    Ramabhar Stupa "มกุฏพันธนเจดีย์" -ปฏิบัติภาวนา

17.00    Hotel Imperial

18.00    วัดไทยกุสินารา - ถวายปัจจัยไทยธรรม

 

กุสินารา สถานที่ดับขันธปรินิพพาน แห่งพระศาสดา  

เช้านี้ คณะเดินทางแสวงบุญตามรอยพระบาทที่ยาตรา...แห่งองค์พระพุทธศาสนา ได้ตื่นกันแต่เช้าไปปฏิบัติภาวนาที่ลุมพินีก่อนแล้วกลัมาโรงแรมเพื่อออกเดินทางสู่จุดหมายต่อไป นั่นก็คือ "เมืองกุสินารา"อาจแวะกินอาหารเช้าที่วัดไทย 960   

 เดินทางมาถึง "เมืองกุสินารา" ในสมัยพุทธกาลเป็นเมืองเอกหนึ่งในสองของแคว้นมัลละ อยู่ตรงข้ามฝั่งแม่น้ำคู่กับเมือง ปาวา เป็นที่ตั้งของ "สาลวโนทยาน" หรือป่าไม้สาละที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน ปัจจุบัน "กุสินารา" มีอนุสรณ์สถานที่สำคัญคือ "สถูปใหญ่" ซึ่งพระเจ้าอโศกมหาราชสร้างไว้ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนวิหารปรินิพพาน เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปปางปรินิพพาน โดยรอบๆ จะมีซากศาสนสถานโบราณอยู่มากมาย  

   

วันที่ 5 .ค. กุสินารา-ลัคเนาว์

05.00    ทำวัตรเช้า-ปฏิบัติภาวนา

07.00    ถวายจังหัน-รับประมานอาหารเช้า

08.00    Parinirvana Kusinara สาลวโนทยานปฏิบัติภาวนา

            ("มกุฏพันธนเจดีย์" -ปฏิบัติภาวนา)

11.30    อาหารกลางวัน

18.00    Lucknow-Hotel

 

"มกุฏพันธนเจดีย์" สถานที่ทำพิธีถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ ซึ่งมีชื่อเรียกในท้องถิ่นว่า รามภาร์-กา-ฏีลา ตั้งอยู่ห่างจาก “มหาปรินิพพานสถูป" ไปทางด้านทิศตะวันออก ๑ กิโลเมตร เป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระของพระพุทธเจ้า เดิมทีเป็นเชิงตะกอนไม้จันทร์หอม หลังจากที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระแล้ว ก็ได้สร้างพระสถูปครอบลง ภายหลังได้ถูกขุดค้นพบเป็นซากกองอิฐพระสถูปขนาดใหญ่ ดังที่เห็นในปัจจุบัน พระสถูปนี้วัดโดยรอบฐานได้ ๔๖.๑๔ เมตร และขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ๓๗.๑๘ เมตร ตามหลักฐานก็เป็นที่ชัดเจนว่านั่นคือ สถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระของพระพุทธเจ้า หรือ มกุฏพันธนเจดีย์ ตามที่ชาวพุทธเรียกชื่อกัน 

เสร็จจาก "เมืองกุสินารา" คณะเดินทาง ได้เดินทางกันต่อเพื่อไปยัง "เมืองลัคเนาว์" 

 

วันที่ 6 ธ.ค. ลัคเนาว์-กรุงเทพฯ

05.00    ทำวัตรเช้า-ปฏิบัติภาวนา

07.00    ถวายจังหัน-รับประมานอาหารเช้า

09.00    Dr Ambedkar Park – ปฏิบัติภาวนา

11.30    อาหารกลางวัน

13.00    ฮาซรัตกันจ์” (Hazratganj) shopping + Rumi Darwaza

19.00    (Chaudhary Charan Singh International Airport)

23.00    เดินทางสู่ กรุงเทพมหานคร FD 147 (23.00-04.00)

 

"อัมเบดการ์ เมมโมเรียล พาร์ค"  (Ambedkar Memorial Park) 

วัดพุทธที่ใหญ่สุดในลัคเนาว์ ที่นี่เหมือนเป็นสวนสาธารณะที่ไม่มีสวนครับ ไม่มีต้นไม้ แต่เป็นสิ่งปลูกสร้างที่ยิ่งใหญ่อลังการมาก เราจะได้ตื่นตาตื่นใจกับภาพที่เห็น อัมเบ็ดการ์เมมโมเรียลพาร์ค(Ambedkar Memorial Park) สิ่งปลูกสร้างอันยิ่งใหญ่ตระการตา อย่างน้อยช่วงเวลาเล็กๆก็ทำให้เราได้ตื่นตากับอาคารบ้านช่อง พร้อมกับสดับตรับฟังเรื่องราวของความงดงามทางสถาปัตยกรรมศิลปะแบบเปอร์เซียและยุโรป ทำให้คิดว่าถ้ามีโอกาสได้มาอีกครั้ง หรือใครที่วางแผนว่าจะเดินทางมาที่ลัคเนาว์  อยากให้เผื่อเวลาให้เมืองนี้ดูสักหนึ่งวัน นอกจากชมสถานที่สำคัญของเมืองอันยิ่งใหญ่ตระการตาแล้ว เมืองนี้ยังมีชื่อเสียงทางด้านงานผ้าปักที่เรียกว่า จิคัน (Chikan) และซาร์โดซี (Zardozi) ที่มีเอกลักษณ์ สวยงาม ประณีตและสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักออกแบบทั่วโลก

Rumi Darwaza รุมิดาร์วาซ หรือ รูมีทรวาฌา หรือ รุมีดาร์วาซา บางครั้งเรียกว่า "ประตูตุรกี" เป็นประตูเมืองขนาดใหญ่ในลัคเนา อุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย สร้างขึ้นโดยการอุปถัมภ์ของ Nawab Asaf-Ud-daula ในปี 1784 ประตูนี้เป็นตัวอย่างสำคัญหนึ่งของสถาปัตยกรรมลัคเนา ประตูมีความสูง 60 ฟุต นี้ได้สร้างโดยถอดแบบมาจาก Sublime Porte ในอิสตันบูล

บาราอิมามบารา (Bara Imambara)

อัครมัสยิดศาสนสถานของชาวมุสลิม ที่สร้างผสมผสานกันระหว่าง ฮินดูและมุสลิม ตั้งอยู่ที่เมืองลัคเนาว์ มีความยิ่งใหญ่สวยงาม ไม่แพ้ที่ใดๆในโลก สวยซะจนถ่ายรูปกันเพลินไปเลยล่ะครับ 

การไปท่องเที่ยวตามรอยขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่อินเดียในครั้งนี้ นับว่าเป็นบุญจริงๆครับที่ได้มีโอกาสไปสัมผัสด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรมต่างๆ สัมผัสกับวิถีชีวิตผู้คนรอบข้าง ความเป็นศิลปะจนอยากให้ทุกคนได้ไปลองสัมผัสดูซักครั้งในชีวิตนะครับ 

 

 

 

****ผู้ตัดสินใจเดินทางร่วมคณะ ขอให้ทราบว่าเราไปปฏิบัติภาวนา มิได้ไปเที่ยว ถ้าเป็นไปได้ขอให้เคยผ่านอบรมที่วัชรธรรมมาแล้ว และคิดว่ากำลังอบรมอยู่ตลอดการเดินทาง คือรักษากาย รักษาใจ ถือศีล8 ภาวนา ตลอดเส้นทางนะครับ****

 

ร่วมบุญได้ที่   ธ.ทหารไทย เลขที่ 040-233-6242          

 "วัชรธรรม"หรือพร้อมเพย์ 089-892-8822

ส่งหลักฐานการโอนมาที่ vacharadham@gmail.com 

ติดต่อสอบถามโทร. 085-123-9952/ 081-875-5588

สำหรับผู้ร่วมเดินทาง ค่าใช้จ่ายห้องคู่ 29,999บาท/คน

(สำหรับ 20ท่าน) - (พักเดี่ยวเพิ่ม 10,000 บาท)

งวดแรก  20,000บาท ภายใน 30 กันยายน

งวดสอง    9,999บาท ภายใน 30 ตุลาคม

 

ค่าบริการนี้ไม่รวม

ค่าทำหนังสือเดินทางไทย และเอกสารต่างด้าวต่างๆ

กระเป๋าเดินทางในกรณีที่น้ำหนักเกินกว่าที่สายการบินกำหนด 20 กิโลกรัม/ท่าน

   ส่วนเกินน้ำหนัก เงื่อนไขตามสายการบินกำหนด

ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการ เช่น ค่าเครื่องดื่ม, ค่าอาหารที่สั่งเพิ่มเอง, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีดฯลฯ

ค่าอาหาร/เครื่องดื่มที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ

ค่าทำใบอนุญาตที่กลับเข้าประเทศของคนต่างชาติหรือคนต่างด้าว

ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% หัก ณ ที่จ่าย 3 % ต่างๆ

ค่าทิปสำหรับ คนขับรถและมัคคุเทศก์ท้องถิ่น ต่อท่านละ 40 USD ต่อ/ทริป/ต่อท่าน*

• * ประกันการเดินทางสำหรับครอบคลุมเรื่องสุขภาพ *

เบี้ยประกันเริ่มต้น 430 บาท [ระยะเวลา 5-7 วัน]

ความครอบคลุมผู้เอาประกันที่มีอายุมากกว่า 16 และน้อยกว่า 85 ปี

วงเงินรักษาพยาบาล 2 ล้าน, เสียชีวิตหรือเสียอวัยวะจากอุบัติเหตุ 1.5 ล้านบาท

พักเดี่ยวเพิ่มคนละ10,000บาท

 

ค่าบริการนี้รวม

ค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินไป-กลับ ชั้นประหยัด ที่ระบุวันเดินทางไปกลับพร้อมคณะ

พร้อมค่าภาษีน้ำมันเชื้อเพลิงและค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการทัวร์ข้างต้น

ค่าโรงแรมที่พักตามรายการที่ระบุ (สองท่านต่อหนึ่งห้อง) **

ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการที่ระบุ และพระ มัคคุเทศก์ ดูแลตลอดรายการ

ค่าอาหารและเครื่องดื่มตามรายการที่ระบุ

ค่ารถรับส่งและระหว่างนำเที่ยวตามรายการที่ระบุ

ค่าประกันอุบัติเหตุคุ้มครองในระหว่างการเดินทาง คุ้มครองในวงเงินท่านละ 1,500,000 บาท

ค่ารักษาพยาบาลกรณีเกิดอุบัติเหตุวงเงินท่านละ 2,000,000 บาท ตามเงื่อนไขของกรมธรรม์

 

เงื่อนไขการสำรองที่นั่ง

กรุณาจองล่วงหน้าอย่างน้อย 4 เดือน (ส.ค)ก่อนการเดินทางและโอนเงินมัดจำ 20,000 บาท (ที่นั่งจะยืนยันเมื่อได้  รับเงินมัดจำแล้วเท่านั้น)หากต้องยื่นวีซ่า ต้องเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าให้เรียบร้อยภายใน 2-3 วันหลังจากทำการจองแล้ว เพื่อจะได้ดำเนินการต่อไป

การชำระค่าเดินทางส่วนที่เหลือจะเรียกเก็บภายใน 30 ตุลาคม ท่านควรจัดเตรียมค่าเดินทางให้เรียบร้อยก่อนกำหนดเนื่องจากต้องสำรองค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าที่พัก ตั๋วเครื่องบินและ การเดินทางมิฉะนั้นจะถือว่าท่านยกเลิกการเดินทางโดยอัตโนมัติ

 

เงื่อนไขการยกเลิกการเดินทาง

แจ้งยกเลิกก่อนเดินทาง 3 เดือน คืนค่าใช้จ่ายทั้งหมด

แจ้งยกเลิกก่อนเดินทาง 2 เดือนเก็บค่าใช้จ่ายท่านละ 20,000 บาท

แจ้งยกเลิกน้อยกว่า 1 เดือนก่อน เดินทาง  ขอสงวนสิทธิ์เก็บค่าใช้จ่ายทั้งหมด

ขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บค่าใช้จ่ายทั้งหมดกรณีท่านยกเลิกการเดินทางและมีผลทำให้คณะเดินทางไม่ครบตามจำนวน 20 ที่กำหนดไว้ (20ท่านขึ้นไป) เนื่องจากเกิดความเสียหายต่อผู้เดินทางท่านอื่นที่เดินทางในคณะเดียวกันที่ต้องนำไปชำระค่าเสียหายต่างๆที่เกิดจากการยกเลิกของท่าน

กรณียื่นวีซ่าแล้วไม่ได้รับการอนุมัติวีซ่าจากทางสถานทูต (วีซ่าไม่ผ่าน) และท่านได้ชำระค่าเดินทางหรือมัดจำมาแล้ว เราจะ คืนค่าทัวร์หรือมัดจำให้ แต่ขอสงวนสิทธิ์ในการหักค่าบริการยื่นวีซ่า, ค่าวีซ่า และค่าใช้จ่ายบางส่วนที่เกิดขึ้นจริงเป็นกรณีไป (อาทิ กรณีออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว หรือได้ชำระค่าบริการในส่วนของทางเมืองนอกเช่น โรงแรม ฯลฯ) จึงต้องหักเก็บค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้นแล้วกับท่านเป็นกรณีไป

กรณีวีซ่าผ่านแล้ว แจ้งยกเลิกก่อนหรือหลังออกตั๋วโดยสาร ขอสงวนสิทธิ์ในการ ไม่คืนค่าเดินทางทั้งหมด

กรณีวีซ่าผ่านแล้ว แต่กรุ๊ปออกเดินทางไม่ได้ เนื่องจากผู้เดินทางท่านอื่นในกลุ่มโดนปฏิเสธวีซ่า หรือไม่ว่าด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม ขอสงวนสิทธิ์ในการหักเก็บค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้นแล้วกับท่านเป็นกรณีไป

กรณีผู้เดินทางไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากเอกสารปลอมหรือการห้ามของเจ้าหน้าที่ไม่ว่าเหตุผลใดๆ ก็ตามขอสงวนสิทธิ์ในการ ไม่คืนค่าใช้จ่ายทั้งหมด

ในการเดินทางเป็นหมู่คณะ ผู้โดยสารจะต้องเดินทางไป-กลับพร้อมกัน  การจัดที่นั่งของกรุ๊ป เป็นไปโดยสายการบินเป็นผู้กำหนด ซึ่งเราไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ และในกรณียกเลิกการเดินทาง และได้ดำเนินการ ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว (กรณีตั๋ว REFUNDได้) ผู้เดินทางต้องรอ REFUND ตามระบบของสายการบินเท่านั้น

เมื่อได้สำรองที่นั่งพร้อมชำระเงินมัดจำค่าตั๋วเครื่องบินแล้ว หากท่านยกเลิกการเดินทาง ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์การเรียกเก็บค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน ซึ่งมีค่าใช้จ่าย ประมาณ 9,000-10,000 บาท

หากตั๋วเครื่องบินทำการออกแล้ว แต่ท่านไม่สารถออกเดินทางได้ ขอสงวนสิทธิ์เรียกเก็บค่าใช้จ่ายตามที่เกิดขึ้นจริง

 

*  รายการเดินทางอาจปรับเปลี่ยนบ้างตามความจำเป็นและสถานการณ์นะครับ  *

ไม่มีความคิดเห็น: