วันศุกร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2564

"ไซอิ๋ว" คืออะไร




 ทำไมไซอิ๋วจึงเป็นนิยายที่ทรงอิทธิพลของจีน ไม่ใช่แค่มันแฟนตาซีเท่านั้น แต่ไซอิ๋วคือ การกางพระไตรปิฎกออกมา แล้วเขียนใหม่ในมุมนิทาน 


"พระถังซำจั๋ง" คือศรัทธา จะไปชมพูทวีป ต้องเริ่มจากมีศรัทธาก่อน พกจิตไปด้วยซึ่งจิตคนเรา ประกอบด้วย..


โทสะ - หงอคง โกรธ 

โลภะ - ตือโป๊ยก่าย โลภ 

โมหะ - ซัวเจ๋ง ความไม่รู้


ก็แค่นั้น จนเจอที่เขาอธิบายใน Google แต่ละบทแบบละเอียด ทึ่งในความสามารถของคนแต่งเลยค่ะ


"หงอคง" แปลงกายได้ เหาะเหิน เดินอากาศได้ ทำอะไรก็ได้ เพราะหงอคง คือจิตคนเรา ที่เป็นลิง ไม่อยู่นิ่ง คิดไปเรื่อย แค่คุมให้ตามลมหายใจยังยากเลย ดังนั้น ถ้าเราคุมหงอคงได้.... การไปชมพูทวีปจะง่ายขึ้น ... เป็นต้น

และเมื่อไหร่ก็ตามที่เราโกรธ - โทสะเราจะเหมือนหงอคง เวลาแผลงฤทธิ์ พังพินาศ ราบเป็นหน้ากลอง


แต่หงอคงแพ้อะไร ? โดนขังไว้ที่ไหน ? 

ใช่แล้ว แพ้ฝ่ามือยูไล โดนขังไว้ที่เขา 5 นิ้ว 


ฝ่ามือยูไล และเขา 5 นิ้ว แทน "ขันธ์ 5 "

ต่อให้จิตแน่แค่ไหน สุดท้ายก็ไม่พ้นขันธ์ 5

ได้แก่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ


นอกจากนี้หงอคงยังมีกระบองวิเศษจัดการปีศาจได้ตลอด กระบองนั้นแทนปัญญา แต่ทว่า มีจิต กับปัญญา แค่นั้นยังเกิดปัญหาได้ 


พระยูไลจึงประทานมงคล มารัดหัวไว้ ให้พระถังซำจั๋งคอยดูแล มงคลนั้นก็แทน "สติ" ซึ่งมงคลเป็นรัดเกล้า 3 ห่วงคล้องกัน แทนไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา


ปีศาจแต่ละตัว แทนกิเลสที่เราต้องค่อยกำจัดออกไป


ตอนเจอกันครั้งแรกเห้งเจียบอกพระถังว่า..

"จะไปชมพูทวีป ผมพาพระอาจารย์ตีลังกาไป 7 ทีก็ถึง

มามัวเสียเวลาเดินทำไมกัน ไม่เข้าใจ" พระถังบอกว่า 

"ไม่ได้..ต้องเดินไป"


ปริศนาธรรมข้อนี้บอกว่า จิต+ปัญญา ฟังเขาเล่า ฟังเขาบอก คิดเอาเองก็บอกง่าย แป๊บเดียวก็ไปถึงนิพพานละ

เช่น คนเล่าให้ฟังเรื่องอริยสัจ 4 ทางดับทุกข์ ก็บอกฟังเข้าใจละ.. แต่จริงๆ แล้ว ยังไม่เข้าใจ..


ธรรมมะต้องลงมือปฎิบัติ เหมือนหงอคงบอกตีลังกาไป 7 ที มันไปไม่ถึงเพราะเอาเร็วเข้าว่า แต่ขาดความเข้าใจ ต้องค่อยๆ เดินไป ศึกษาไป ปฎิบัติไป จึงจะถึง...


โป๊ยก่าย คือศีล 8 

ซัวเจ๊ง คือสมาธิ


ศรัทธา + ปัญญา + ศีล + สมาธิ จึงจะพ้นทุกข์


แต่บางครั้งปีศาจบางตัวก็เก่งเหลือเกิน

ต้องไปตามเจ้าแม่กวนอิมมาช่วย

เจ้าแม่กวนอิม คือ เมตตา 


ปัญญา + เมตตา จะกลายเป็นสัมมาทิฏฐิ ธรรมชั้นสูงซึ่งปราบกิเลสได้เสมอ แต่เจ้าแม่กวนอิม มักให้เห้งเจียลองสู้จนหมดแรงก่อน ถึงมาช่วย เหมือนหากมีกิเลส ควรใช้ปัญญาลองขจัดดูก่อน เกินกำลังแล้วจึงใช้เมตตา..ปล่อยวาง


ถ้าเกินกำลังเมตตา เจ้าแม่กวนอิมช่วยไม่ไหว

คนสุดท้ายที่มักมาช่วย คือ พระยูไล

พระยูไล แทน พระอริยสงฆ์ 


ลำดับปีศาจแต่ละตัวในเรื่องก็สุดยอดมาก

เช่น เมื่อเริ่มเดินทาง ก็พบโจรทั้งหก ขัดขวางไม่ให้ไป

สุดท้ายเห้งเจียเลยเอากระบองตีจนตาย


โจรทั้งหกคือ "อายตนะ 6" คือ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส และอารมณ์ ต้องเอา ปัญญา (กระบอง) ฟาดให้ตายก่อนถึงเริ่มออกเดินทางได้

แล้วก็จะเจอปีศาจไปเรื่อยๆ 


สรุป ศรัทธา + ปัญญา + ศีล + สมาธิ.. ออกเดินทาง

กำจัดกิเลส.. ไปจนถึงชมพูทวีป แล้วได้อะไร ?


ตอนจบพระถังซำจั๋งและคณะ มาถึงแม่น้ำแห่งหนึ่ง

สายน้ำเชี่ยวกรากมาก ไม่รู้จะข้ามไปยังไง

จนเจอเรือไร้ท้องเรือ จอดอยู่ พระถังกังวลมาก

เรือไม่มีท้องเรือจะพาข้ามฟากได้อย่างไร?


แต่สุดท้ายก็ยอมใช้เรือข้ามไป

แม่น้ำเชี่ยวกรากแทนกองกิเลส

เรือนั้นแทน "สุญญตา" ความไม่ยึดมั่นถือมั่น


เมื่อข้ามมาแล้วก็ถึงชมพูทวีป

และได้คัมภีร์มา..เป็นหนังสือเปล่าหนึ่งเล่ม

แทนธรรมมะ ซึ่งก็คือความว่างเปล่า ...

หรือ "นิพพาน" นั่นเอง


แต่สุดท้าย.. เห้งเจียขอให้มีอะไรกลับไปเมืองจีนหน่อย

เพราะคนธรรมดาคงไม่เข้าใจ

เลยได้คัมภีร์มาอีกเล่มนึง เต็มไปด้วยอักษร

เป็นบันทึกการเดินทาง เรียกว่า "พระไตรปิฎก" ...


เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้


อ่านแล้วต้องคารวะคนแต่งเลย ....

🍃🌸 #  ยิ่งแก่  ฉันยิ่งเก่ง   ความแก่ของฉัน “ มันไม่ใช่ภาระ ”

         " อย่าหยุด "  ที่จะทำ 13 ข้อนี้


1).   อย่าหยุด  ที่จะทำงาน  เพราะจะทำให้ชีวิตเรา  กลายเป็นไร้ค่า

        กว่าจะรู้ตัว   บางเรื่องก็สายไปเสียแล้ว


2). อย่าหยุด  ที่จะออม   ไม่ว่าจะออมด้วยวิธีไหน   ก็ต้องรู้จักออม

        ทั้งซื้อพันธบัตรรัฐบาล ซื้อหุ้น ฝากธนาคาร ออมผ่านบริษัทประกันชีวิต 

        จะซื้อทอง  หรือซื้อที่ดิน   ก็จงรีบออมตั้งแต่เนิ่นๆ   อย่ารอพึ่งคนอื่น

        ยามเดือดร้อน   เพราะ  เขาก็มีภาระของเขาเหมือนกัน


3). อย่าหยุด  ในการดูแลตัวเอง  จงหล่อตามวัย  ใส่ใจตัวเองเสมอ

        อย่าได้ปล่อยตัวเองโทรม  จนกลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำบ้านเด็ดขาด


4). อย่าหยุดฉลาด  อย่าหยุดอ่าน  อย่าหยุดเขียนเขียน  จงเรียนรู้ต่อไปทุกวัน

      พยายามหาความรู้ใหม่ๆ ทุกวัน   เพราะ   ความรู้ทำให้องอาจ


5). อย่าหยุดหาเงิน  พยายามให้มีประตูมากกว่าหนึ่งบาน ให้เงินไหลเข้ามา เพราะถ้าบานหนึ่งปิด ก็ยังมีบานอื่นเปิดอยู่  นอกจากนั้น  ชีวิตที่สามารถ

พึ่งตนเองได้  จะทำให้ตนเองมีค่ามากยิ่งขึ้น  เมื่อยังหาเงินใช้ได้เอง


6. อย่าหยุดคบเพื่อน   โดยเฉพาะเพื่อนเก่าที่ดีๆ จงพยายามหาเวลาไปพบปะ

    สังสรรค์กัน  พูดคุยรำลึกความหลังอย่างมีความสุขกัน  เพราะจะทำให้เรา

    ไม่พลาดความประทับใจ  กับความสุขบางเรื่องไป


6). อย่าหยุด  ท่องโลกกว้าง  นอกจากความสุขที่ได้บินออกไปนอกรัง สู่โลก

      กว้างแล้ว  ความรู้ใหม่ๆจากการได้พบเห็น  ยังมากขึ้นอีกด้วย เสมือนหนึ่ง

      เติมไฟให้กับชีวิตและใจของเราเอง  ตอนนี้ไปเป็น ขับรถเป็น  ก็จงรีบไป

      ก่อนที่จะหมดโอกาส ขับไม่ได้ ไปเองไม่เป็น กลายเป็นหมาเฝ้าบ้าน


8).  อย่าหยุด ที่จะหาของอร่อยกิน  และต้องเลือก  คัดสรรค์  ที่ไม่ทำให้อ้วน

       และไม่บั่นทอนสุขภาพ  ลิ้นยังรับรสได้ดี  กินอะไรอร่อย   ก็รีบๆกินซะ

       ตอนนี้ยังกินได้ดี  อยากกิน  มีให้กิน  จงกิน ก่อนที่จะหมดโอกาสกิน


9).  อย่าหยุดเล่นกีฬา อย่าหยุดออกกำลังกาย  จิตใจที่ดีควรอยู่ในร่างกาย

       ที่แข็งแรง จะได้มีชีวิตอยู่เป็นผู้สูงวัย  ที่ไม่เป็นภาระกับลูกหลาน


10).  อย่าหยุดรักตัวเอง  ถ้าเราไม่รักตัวเองก่อน แล้วจะให้ใครมารัก  รักตัวเอง

         ก็ต้องใส่ใจตัวเองในทุกเรื่อง ผลของการใส่ใจตัวเอง  จะทำให้เราดูดี

         ในทุกเวลา  ทุกอิริยาบถ


11).  อย่าหยุดกตัญญู   คนกตัญญูรู้คุณคน มักจะสบความสำเร็จ

          รู้ว่าเคยเป็นหนี้บุญคุณใคร  ก็รีบไปหา ไปตอบแทนซะให้หมดหนี้

          อีกหน่อยเมื่อใด  ความสามารถหมดไป  ตอบแทนชาติหน้า จะไม่ทัน


12). อย่าหยุดทำบุญสร้างกุศล  เพราะจะทำให้จิตใจผ่องแผ้วเบิกบาน และส่ง

        ผลให้เรา มีความสุขมาจากข้างใน  อันเป็นความสุขที่แท้จริงของชีวิต


13). อย่าหยุด  ทำสิ่งที่ชอบ   เพราะไม่มีใครรู้   ว่าเราจะทรงความสามารถนี้

        ไปได้อีกนานเท่าใด  เมื่อมีโอกาส  และสภาพทำได้  ก็ให้รีบๆทำเสียเถิด


ที่มา : Postread

.

ไม่มีความคิดเห็น: