วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ROPE

 3 พย.63 rope หรือ goole map

วันก่อนมีน้องคนหนึ่งมาคุยด้วย... เรื่องการปฏิบัติภาวนา....
เธอปฏิบัติมานานแล้ว แต่ไม่เคยเห็นมีอะไร ไม่เคยเจออะไร ไม่เคยเกิดอะไรขึ้นเลย! .... เราเองตลอดเวลาที่ผ่านมา ก็ได้พูดคุยกับเพื่อนๆ หลายๆครั้ง แม้แต่งานที่เราทำทั้งหลายทั้งปวงตลอดมานี้ ก็เพียงต้องการให้เพื่อนๆที่ร่วมเดินทางไปด้วยกันในทางสายนี้ ได้ทราบว่า...เรากำลังจะเดินทางไปที่ไหน? ปัจจุบันนี้เราอยู่แห่งใดบนเส้นทางนั้น...
เรามักยกตัวอย่าง เรื่องการเดินทางจาก กรุงเทพไปเชียงใหม่เสมอๆ ให้เพื่อนๆฟัง ...คือถ้าเราต้องการจะเดินทางไปเชียงใหม่ เราต้องศึกษาให้รู้จักเชียงใหม่บ้าง เช่นทราบว่าเชียงใหม่อยู่ทางทิสเหนือ จาก กรุงเทพไปเชียงใหม่ต้องผ่านจังหวัดใดบ้างเป็นต้น จริงอยู่....ที่วิธีการเดินทางของแต่ละคนอาจแตกต่างกันบ้าง บางคนทำบุญมาดี จึงอาจเดินทางโดยใช้เครื่องบิน รถยนต์ รถทัวร์ รถไฟ แม้แต่จักรยาน ฯ แต่คนส่วนใหญ่อย่างพวกเรา อาจต้องเดินทางไปที่ละก้าวๆ ซ้าย-ขวา ๆ ๆ ไปเรื่อยๆ
แต่...มิใช่ว่าคนที่เดินทางด้วยเครื่องบินหรือรถยนต์ จะไปถึงเชียงใหม่ก่อนเสมอไปเพราะ.. ถ้าเขาไม่รู้จักเชียงใหม่ ถึงจะมีเงินทอง มีรถยนต์ ก็อาจจะเข้าใจผิด หรือเกิดผิดพลาดหลงทางได้เสมอ แม้แต่ผู้ที่เดิน ซ้าย-ขวา ๆ ๆ ไปตลอดทุกวันๆ ก็ยังอาจหลงทางได้เช่นกัน ทุกวันๆ ที่เขาพยายามเดินทางมาอย่างเนิ่นนานนั้น กลับไม่พบเห็นป้ายบอกทางใดๆเลย บางคนจึงรู้สึกท้อแท้หมดแรงเดินต่อ เพราะวันหนึ่งการเดินทางจากกรุงเทพของเขานั้น เขาอาจเดินไปพบชายทะเล หัวหิน พัทยา ก็ได้ เขาจึงสามารถรู้ได้ว่าทางที่เดินมานั้นผิดทางเสียแล้ว แต่ก็เสียเวลาไปยาวนานทีเดียว
ดังนั้นนอกจากการศึกษาจุดมุ่งหมายและหนทางอย่างละเอียดแล้ว เราอาจต้องใช้ตัวช่วย เช่น เข็มทิศ, google map หรือเชือก rope เพื่อจะบอกเราได้ว่า ขณะนี้เราอยู่ที่แห่งหนตำบลใดบนทางเดินสายนี้ และทางที่เรากำลังเดินไปนั้นถูกต้องหรือยัง เช่นนี้แล้วเราอาจไม่ต้องรอให้เห็นทะเลจึงรู้ว่าผิดทางไปเชียงใหม่อีก
คำตอบของน้องคนนั้น...เธออาจต้องใช้ เชือกสักเส้น หรือ google map นำทางไปเพื่อจะได้ไม่หลงทางอีกต่อไป และจะได้มั่นใจว่าทุกย่างก้าวที่เดินไปนั้น ไม่ว่าจะเป็น ขวา-ซ้ายๆ ๆ ๆ หรือ เธอจะนับ หนึ่ง สองๆ ก็ตาม เธอก็จะเดินทางเข้าใกล้จุดมุ่งหมายปลายทาง ที่เชียงใหม่ไปทุกทีๆ เราจะมาใช้เชือกสักเส้น มาทำเป็นราวกันตก-หลุดจากทางสายนี้กันไหมครับ เอาเชือกมาขึงจาก กรุงเทพไปเชียงใหม่ แล้วเดินเกาะตามไป ทีนี้ถึงแม้ระหว่างทางจะไม่พบไม่เห็นอะไรเลย ดูเหมือนๆเดิมทุกวันๆ เราก็ยังมั่นใจได้ว่าไม่หลงทางอีกต่อไป พวกเราจะมาเดินเกาะเชือกไปด้วยกันไหม? แน่ละบางคนที่เขามั่นใจ เข้าใจเส้นทางเรียบร้อยดีแล้ว อาจไม่จำเป็นต้องเดินเกาะเชือกไปกับเราก็ได้ แต่ผู้คนที่ยังไม่มั่นใจ มีเชือกสักเส้นก็น่าจะปลอดภัยดีนะครับ คงไม่ต้องห่วงเพื่อนๆที่นั่งรถนั่งเรือบิน แล้วหลงทางขับลงใต้ หรือบินไปภูเก็ตก็ได้ครับ เพราะเมื่อเขาไปถึงแล้วรู้ว่าผิดเขาอาจกลับใจมุ่งสู่จุดหมายที่ถูกต้องได้สักวัน
THE ROPE เชือกเส้นนั้ของพวกเราคือ เชือกสามเส้นที่ถักทอกันด้วย ศีล+สมาธิ+ปัญญา เมื่อมั่นใจในศีล สามารถควบคุมกายและวาจาให้ไม่กระทำผิดได้อย่างดี สามารถควบคุมจิตใจให้สงบตั้งมั่นได้อย่างดี ไม่ฟุ้งซ่าน หรือ ลังเล สงสัยฯ มีปัญญาพิจารณาไปตลอดทาง ไม่ยึดมั่นในตัวในตน เข้าถึงสัจจธรรมทั้งสี่ได้ ... เมื่อนั้น...ถึงแม้ทางเดินที่เธอเดินนั้นอาจไม่สนุกเพลิดเพลิน ไม่มีสีสรรสวยงาม ไม่น่าตื่นเต้นยินดีก็ตาม เมื่อเดินเกาะเชือกเส้นนี้ไป เธอย่อมถึงเชียงใหม่ได้สักวัน
และแน่นอนที่สุด การจะถึงจุดมุ่งหมายของเรา ณ เชียงใหม่ได้นั้น.....ไม่มีคำว่าสะดวกสบาย ทางโรยด้วยกรีบกุหราบ อย่างแน่นอน เพราะกว่าเราจะได้พบความสุข สามารถพักผ่อนอย่างชิวๆ ปล่อยเวลาสบายๆ ไปกับสายลมแสงแดดเย็นๆสบายๆนั้น ความสำเร็จครั้งนี้ ไม่เคยจะได้มาด้วยความง่ายดาย อาจต้องใช้คำว่า แลกเปลี่ยนด้วยความตายก็เป็นไปได้ แต่ดีที่เรามีเวลาเหลืออยู่มากมาย เวลาในวัฏฏนี้ยาวนานนัก ขอให้ยึดใช้เส้นเชือกเส้นนี้ไว้ ให้ดี เพราะเชือกเส้นนี้จะพาเธอไปเชียงใหม่ได้อย่างแน่นอน และอย่าได้หลงทางอีกเลย
ด้วยความรัก ความปรารถนาดี จากใจ
ปิโยรส Nov. 2020

บันทึกส่งท้าย
เพื่อนๆหลายๆคนมักจะมองไปข้างหน้า
แสวงหาสิ่งต่างๆมากมาย รวมทั้งการปฏิบัติ
ผมอยากจะขอให้เพื่อนๆมองย้อนกลับมามองตัวเราสักนิด
วันนี้ชาตินี้ เราได้เกิดมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง ในจำนวนหลายๆครั้งที่ผ่านมา การเป็นมนุษย์นั้นมีค่าและเป็นได้ยากยิ่งนัก การที่เรามาเจอกันที่นี่อีกครั้งจึงมีค่ายิ่งนัก เป็นของขวัญอันล้ำค่า ที่เราได้มาเป็นต้นทุนแล้ว
อย่าเสียใจ อย่าผิดหวังเลย จงภูมิใจและดีใจที่มีโอกาสที่ดีที่สุดแล้ว จงก้าวต่อไป อย่างมั่งคง (ถ้าไม่แน่ใจก็เกาะเชือกไว้นะครับ)



ไม่มีความคิดเห็น: