วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

Why have to have the next step?

https://www.facebook.com/piyoros.preeyanont/media_set?https://www.facebook.com/piyoros.preeyanont/media_set?set=a.10204100692791778.1073741932.1658875268&type=3&comment_id=10209390485113280set=a.10204100692791778.1073741932.1658875268&type=3&comment_id=10209390485113280


ธรรมะจากผาผึ้ง1
ช่วงเวลาสองเดือนครึ่งที่ได้มีโอกาสได้ไปใช้ชีวิตภาวนา
ณ ถ้ำผากง ที่ภูผาผึ้งนั้น
วันเวลาทั้งวันทั้งคืนสามารถใช้ไปกับการภาวนาตั้งแต่เช้าตื่นมาตีสองก็ทำวัตร
นั่งสมาธิ พอได้อรุณก็ทำสรีรกิจเสร็จก็เข้าทางจงกรมยาวไปถึงสามสี่ทุ่ม
จะมีพักทานน้ำเข้าห้องน้ำทำวัตรตอนบ่ายสองสักชั่วโมงเดียวเพราะไม่ต้องกังวนเรื่องอาหารหรือปานะใดๆ ไม่ต้องห่วงใยผู้ใดเพราะอยู่ลำพังผู้เดียว
ทำข้อวัตรเสร็จก็เข้าทางเดินจงกรมต่อจนสามสี่ทุ่มก็ทำวัตรเย็นแล้วพักผ่อนจึงจะตื่นขึ้นมารับวันใหม่ตอนตีสองเช่นเคย
ทางจงกรม ทางเดินแห่งชีวิต
ทางจงกรมนั้นมีจุดเริ่มต้น
มีท่ามกลาง และปลายสุด
เมื่อสิ้นสุดทางเดินก็เริ่มต้นใหม่วนเวียนไม่รู้จบดุจดังวัฎฎะสงสาร ท่ามกลางทางเดินจงกรม เราจะมีก้าวแรก
ก้าวสองและก้าวต่อๆไปเสมอ มีขวามีซ้าย ก้าวและก้าวต่อๆไป
เหมือนชีวิตในแต่ละภพแต่ละชาติที่เราคิดว่าเผจิญกับสิ่งใหม่ๆในชีวิตเสมอ แต่แท้จริงทางนี้เราผ่านมามากมายสุดจะนับคะเนได้แล้ว
ชีวิตเป็นเช่นนี้เอง ตราบจนมีสติตามรู้ปัจจุบันขณะ มีสติแข็งแรงขึ้น
รายละเอียดต่างๆของการเคลื่อนไหว กายและจิตก็จะปรากฎได้ชัดเจ
เวลาดังจะช้าลงจากวินาทีเป็นนาทีเป็นชั่วโมง
แม้กระทั่งการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในใจก็สามารถถูกสังเกตเห็นได้ชัดเจน
ความต้องการ ความพอใจไม่พอใจ เรื่องในอดีต อนาคตประดังกันออกมาจากใจในช่วงแรกๆ
แต่ต่อไปเพียงขยับจะปรุงแต่งเรื่องต่างๆอีก ใจก็จะร้องว่าพอแล้วไม่คิดไม่ปรุงแล้ว อิริยาบถต่างๆของกายของใจก็เห็นได้แจ่มชัดขึ้น
จนมีคำถามผุดมาจากใจว่า
“ทำไมจึงต้องมีก้าวต่อไป”
· คนเราส่วนใหญ่มักถูกแรงแห่งตัญหา
ผลักดันให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยความต้องการทะยานอยาก ด้วยแรงแห่งกิเลส ความโลภ
ความโกรธ ความหลง เพียงต้องการเติมเต็มความไม่อิ่มไม่พอ
ในใจของเราอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
· ธรรมะคำสอนของพระพุทธองค์ทรงชี้ให้เรามองย้อนเข้าสู่ใจตนเอง
ให้มุ่งขจัดความโลภ ความโกรธ ความหลง ซึ่งก็คือกิเลสตัญหาออกจากใจ ความต้องการทะยานอยากอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ก็จะยุติลง ณ เวลานั้น ดังนั้น ความสุขความสงบในใจก็จะบังเกิดขึ้น
เพียงพอและพอเพียงที่จะจบการเดินทางอันแสนยาวนานนี้ลงได้แล้ว ณ เวลานั้น
มิจำเป็นจะต้องมีก้าวต่อไปอีก หยุดได้แล้วการเดินทางอันไม่มีที่สิ้นสุดนี้
หยุดได้แล้ว เพราะเราได้ถึงที่หมายนั้นแล้ว
· เมื่อจิตดวงนี้ได้ถูกชำระ อวิชชา ตัญหา
และอุปปาทานทั้งหลายออกจนสะอาดแล้ว จิตนี้ก็จะมีแต่ความสุขสงบ สมบูรณ์ แม้จะมีก้าวย่างเดินทางต่อไ
ก็มิได้ไปจากแรงแห่งตัญหาแล้ว
กลับก้าวต่อไปด้วยแรงแห่งความเมตตากรุณาอันล้นจากใจดวงนี้
เพื่อมุ่งหวังจะช่วยเหลือเกื้อกูลสรรพสัตว์ สรรพชีวิต และสรรพสิ่งทั้งมวล
มิได้ต้องการแสวงหาสิ่งใดอีกต่อไปแล้ว
· หากเปรียบใจเราดังแก้วน้ำ
ผู้คนส่วนใหญ่ต่างดิ้นรนแสวงหาน้ำมาใส่ใจเพื่อมาดับความเร้าร้อนแห่ง ตัญหาในใจ น้ำจำนวนมากมายถูกรินใส่ใจที่มิเคยเพียงพอ เนื่องเพราะเขาขยายแก้วในใจนั้นให้ใหญ่ขึ้นๆ
อย่างไม่สิ้นสุดเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของเขา
อำนาจแห่งกิเลสนั้นครอบงำจิตใจเขาทำให้น้ำมากเพียงใดก็มิอาจเติมเต็มแก้วในใจเขาได้เลย
· พระพุทธองค์ทรงชี้ทางที่จะเติมเต็มแก้วน้ำในใจดวงนี้
เพื่อดับความร้อนเร่าในใจลงโดยขจัดความต้องการอันไม่สิ้นสุดลงเสีย
ลดขนาดของแก้วในใจของเราลง แก้วนั้นเมื่อยิ่งเล็ก
น้ำเพียงจำนวนน้อยก็สามารถใส่ให้เต็มได้อย่างรวดเร็ว ความเร้าร้อนในใจก็จะดับลงไ
การแสวงหาน้ำก็ย่อมมีวันสิ้นสุดลง ใจนี้ย่อมมีเวลาพัก มีเวลาสุขสงบได้สักวัน
· เมื่อแก้วน้ำในใจดวงน้อยนี้เต็มแล้ว ความเร้าร้อนในใจดับเสียแล้
ความต้องการแสวงหาน้ำย่อมหมดลงแล้ว
เมื่อมีน้ำมาเติมลงไปในแก้วนั้น น้ำนั้นย่อมไหลรินล้นออกจากใจ
นำความชุ่มชื่นฉ่ำเย็น ออกจากใจดวงนี้ สู่ใจที่เร้าร้อนใกล้เคียง ลดความทุกข์ทรมาณ
สร้างความเบิกบานให้แก่มวลสรรพชีวิตทั้งหลายรอบตัวเขาให้พบกับความสุขสงบเช่นเดียวกัน การก้าวเดินต่อไปก็เพียงลดขนาดแก้วใส่ใบน้อยในใจนี้ให้เล็กลงๆจนหมดไป
ความต้องการน้ำก็หมดไป มิจำเป็นต้องเติมเต็มใจนี้แล้ว
น้ำที่มีมาก็เพียงเพื่อสรรพสิ่งภายนอกใจนี้เท่านั้นเอง ณ
เวลานั้นแม้ความสงบในใจก็มิต้องแสวงหาอีกต่อไปแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น: