วันอังคารที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2564

หลักสูตร ภาวนา ณ สุสาน

 



❤❤❤

ในการปฏิบัติภาวนานั้น ความคิดและความรู้สึกใดๆก็ตามที่เกิดขึ้นมา เราควรจะสามารถปล่อยมันไว้ตรงนั้น ไม่มีการรับรู้ใดๆที่จะเข้ามาแทรกในกระแสของความรู้ตัวนั้น ไม่ต้องสร้าง-ปรุงแต่ง-สรุป หรือให้คำจำกัดความใดๆ เพียงแค่ปล่อยให้ทุกอย่างเกิดขึ้น และให้สังเกตเห็นว่า ความรู้ตัวของเราก็อยู่ตรงนั้นด้วยเสมอ ถ้าเราจะสามารถรับรู้ถึงสติ ความรู้ตัวของเราขณะนั้นๆ นั่นก็เพียงพอแล้ว นี่เป็นสิ่งที่เรา มักจะไม่คุ้นเคยในตอนเริ่มต้นของการภาวนา เพราะเรามักหลงไปกับมันมาตลอดชีวิตแล้ว มันอาจทำให้เรารู้สึกไม่สบายใจก็ได้ และอาจจะรู้สึกถึงแรงกระตุ้นที่อยากจะทำอะไรสักอย่างต่อสิ่งที่มากระทบทางกายทางใจเราอยู่นั่นเอง ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ เมื่อเราเริ่มคุ้นเคยกับการภาวนานี้ รู้จักคุณลักษณะของการตระหนักถึงสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่และสติความรู้สึกตัวของเราแล้ว เราก็จะเริ่มเห็น -ความเมตตา กรุณาและปัญญาญาณ ในตัวเรา ว่าจะอยู่ตรงนั้นนั่นเอง เราจะตระหนักรู้ว่า ความสุขในใจและทุกสิ่งทุกอย่างรอบกายเรานั้น่ม่ไอาจจะสมบูรณ์ไปกว่าที่เราเป็นอยู่แล้ว ณ ตอนนี้ ในปัจจุบันขณะนี้เลย สุขจากการภาวนา เกิดขึ้น เวทนาทั้งหมดทั้งสิ้นหายไป ความเมตตาสุดประมาณปรากฏชัดเบื้องหน้าใจเรา..........


11-12 ธค. ภาวนา ณ สุสาน
คณะเรา 10 คนกับท่านอจ.ฐาอีก1 รวม11คน ไปปฏิบัติภาวนาร่วมกันที่สุสาน เจริญมรณานุสติกัน ถึงแม้จะเป็นเวลาไม่นานนักแต่ก็เป็นการภาวนาที่ใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่าครับ เริ่มจากพูดคุยสนทนาพอรู้จักทักทายกันก่อนไปสุสาน ที่วัชรธรรมสถาน ก่อนเดินทางไปสุสานกัน หลังจัดที่พักเรียบร้อยก็เริ่มเดินจงกรม (ทักทายเจ้าของบ้านที่เรามาพักร่วมกับพวกเขา 1 คืน) ตกเย็นก็ทำวัตรเย็นร่วมกันเสร็จก็นั่งภาวนาแบบไม่ต้องออกมาจากเต็นท์ใครเต็นท์เขาเลย ครบสี่ชม.ก็ไปพักเข้าห้องน้ำ และพักผ่อนอริยบทหนึ่งชม. ก่อนไปต่อภาวนากันอีกหนึ่งรอบสี่ชม.เต็มๆ รอบแรกอากาศกำลังสบายๆ แสงจันทร์วันโกน7ค่ำสว่างพอมองเห็นบริเวณโดยรอบได้อย่างชัดเจน แต่พอรอบหลังแสงจันทร์อับแสง อากาศเริ่มเย็นลง บรรยากาศอยู่ในความเงียบสงบและมืดมิด เหมาะต่อการภาวนาดูกายดูใจนี้เป็นอย่างยิ่ง เช้าตีสี่ครึ่งพวกเราก็มาทำวัตรเช้ากันก่อนจะลาจากสุสานกลับมาใส่บาตรท่านอาจารย์ฐากันที่วัชรธรรมสถาน
การนั่งภาวนาหน้าหลุมศพ ก็เป็นการเจริญมรณสติได้เป็นอย่างดี อย่างที่เคยบอกไว้ก่อนเข้าอบรมว่า..."ถ้าพรุ่งนี้เราจะต้องตาย วันนี้เราอยากจะทำอะไร? " ชีวิตที่มีความต้องการอย่างไม่รู้จบ สุดท้ายไม่ว่าได้หรือไม่ได้อย่างไร ก็จบลงที่การตายนี่เอง ถ้าได้คิด พิจารณาถึงความตายบ่อยๆ ความโลภ ความโกรธ ความหลง ของเราก็คงจะลดลงได้อย่างมากนะครับ สิ่งที่จะติดตามเราไปหลังความตาย ก็คงมีแต่ กรรมที่เราทำ ทั้งดีและไม่ดี อาจไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ แต่กรรมและผลของกรรม ยุติธรรมเสมอ......
เพื่อนๆหลายคนไม่เคยต้องนั่งครั้งละ4ชม. ทั้งกลัวทั้งกังวล แต่ก็เห็นผ่านมาได้อย่างยิ้มแย้มแจ่มใส่กันทุกคน คงจะไม่ยากดังที่คาดหวังไว้นะครับ.... นั่งภาวนาเฉยๆ ไม่ต้องคิดอะไร เพียงดูให้รู้สิ่งต่างๆที่เกิดขึ่นในกายในใจนี้แล้วก็ปล่อยผ่านไป....( เจ็บปวดเวทนาก็เช่นกัน วันนี้ปล่อยไปไม่ได้ยังมีวันต่อๆไปนะครับ..)
ปฏิบัติภาวนาที่สุสานครั้งหน้า เดือน กุมภาพันธ์ นะครับ เรียนเชิญเพื่อนร่วมทางสมัครเข้ามาภาวนาด้วยกันครับ ปีหน้าคงจะมีเดือนเว้นเดือนนะครับ " ภาวนา แค่ชั่วคืน กับการรู้ตื่น....ตลอดไป " กราบอนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ

11-12 ธค.64 วัชรธรรมสถาน
หลังจากสองปีที่เราเผชิญ โควิดมาด้วยกัน วัชรธรรมสถานก็ต้องหยุดบริการไป ทั้งเจ้าหน้าที่ที่เคยดูแลก็ลาออกไปแล้ว มีท่านอาจารย์ฐาอยู่ภาวนาแต่ผู้เดียว เช้าๆมีพี่เขียวมาคอยดูแลอุปัฏฐากท่านทุกวัน การจะรีบมาเปิดอบรมปฏิบัติภาวนาอีกครั้ง คงเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเราจริงๆ แต่.... พวกเราตระหนักเสมอถึงความสำคัญของการอบรมภาวนา โดยเฉพาะที่มีพ่อแม่ครูอาจารย์ที่เมตตามาให้การสั่งสอน เราได้ปรารภกันว่าจะกลับมาเปิดอีกครั้งในปีหน้า เดือน เมษายน ซึ่งทำให้เรามีเวลาที่จะเตรียมตัวบ้าง
แต่ ณ เวลานี้ ภัยจากโควิดลดลง เราจึงนำหลักสูตร "💖การภาวนา ณ สุสาน " กลับมาปัดฝุ่นอีกครั้ง โดยจะพยายามจัดให้ได้เดือนเว้นเดือน สำหรับเพื่อนๆที่รักการภาวนาทุกๆท่านครับ เพื่อนๆที่มีใจอยากจะช่วยประคับประคองวัชรธรรมสถานขององค์หลวงตาร่วมกัน ขอเรียนเชิญนะครับ เพราะต่อไปเราจะดูแลกันโดยอาสาสมัครครับ ตั้งแต่ ปัดกวาด ทำความสะอาด ก่อน-หลังการอบรม ธรรมบริกร-ช่วยสงเสริมการภาวนา ดูแลการอบรม อาหาร ปานะ ฯลฯ เดือนเมษาช่วงสงกรานต์คงเป็น BIG CLEANING DAY ของวัชรธรรมสถานนะครับ ขอเรียนเชิญล่วงหน้าเลยครับ นัดกันไว้ก่อน...
ครั้งแรกของกลับมาอีกครั้งในการภาวนาที่สุสาน ก็คือคืน11ธค64นี่เองครับ ก่อนไปสุสาน เรามาแนะนำตัวกันที่วัชรธรรม และหลังการภาวนาเราก็กลับมาถวายจังหันท่านอาจารย์ฐาที่วัชรธรรม ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปต่อสู้ในโลกนี้ต่อไปด้วยกำลังใจ สติ ปัญญา จากการภาวนาที่พัฒนาขึ้นๆ ทุกๆครั้งที่เรามาร่วมกันครับ ครั้งต่อไป เดือน กุมภาพันธ์นะครับ เรานัดมาเจอกัน.........