วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

ทำไมต้องภาวนา?

 


ภาวนา ณ พระธุตังคเจดีย์
หลังทำบุญถวายจังหัน รับฟังธรรมโอวาท ปล่อยปูแล้ว ท่านอาจารย์ฐา พาคณะเรามานั่งภาวนาที่พระธุตังคเจดีย์
บรรยากาศ ในสงบเย็นสบาย ก่อนจะไปทำทานต่อที่บ้านพักคนพิการต่อไป
ทำไมต้องภาวนา?
ขณะที่พวกเราหลายคนมาทำบุญ บางครั้งใจเราอาจไม่ได้อยู่กับบุญตรงหน้า ใจเราออกไปเที่ยวเสียที่อื่นๆ ธรรมโอวาทที่ฟังก็อาจลืมเลือนไป ปู-ก็ได้แต่เป็นเพียงกิจกรรมสำหรับถ่ายรูปให้คนอื่นๆดูว่าฉันเป็นคนดีนะ หรือบางคนมาร่วมกิจกรรมแต่ตัว ใจลืมเอามาด้วย หรืออาจส่งใจไปกับโทรศัพท์มือถือเสียแล้ว!!!
เมื่อมีเวลาเราจึงต้องมาหยุดพิจารณาหันมามองใจของตัวเองบ้าง รู้จักใครรู้จักอะไรก็ไม่เท่ารู้จักใจตนเอง ครูบาอาจารย์ท่านจึงให้เรามาใช้เวลาพิจารณาใจตน
แล้วนั่งหลับตาจะได้อะไร? ก็ใจที่วิ่งไปวิ่งมา จะได้มีโอกาสพักบ้าง สงบลงบ้าง รถยนต์ที่วิ่งเร็วๆ คนในรถจะมองอ่านป้ายตัวหนังสือข้างทางให้เห็นชัดๆเข้าใจถูกต้องได้ยากฉันใด ใจดวงนี้ ที่วิ่งซุกซนไปมาจะมีเวลาเข้าใจตนเองได้อย่างไร รถยนต์ที่จอดหรือเคลื่อนไปช้าๆ คนในรถก็จะมองเห็นป้ายเห็นตัวหนังสือข้างทางเห็นอะไรๆได้ชัดเจน เหมือนใจที่นิ่งสงบมองเห็นจิตใจตนเองเห็นความคิดตัวเองได้กระจ่างขึ้นฉันนั้น
เห็นไปทำไม?
ก็ในใจเรา ก่อนจะมีการกระทำทางวาจา-พูด ทางกาย-กระทำใดๆ ก็ต้องเริ่มที่ใจก่อน แต่ใจเรามีสิ่งแปลกปลอมคอยย้อมอยู่ ได้แก่ สิ่งดีๆเช่นกุศล หรือสิ่งไม่ดี-กิเลส เมื่อเรามีโอกาสเห็นใจเราได้ชัดๆเราจะได้เข้าใจว่า-คำพูดที่ออกมาจากปากเรา หรือการกระทำที่เราแสดงออกนั้น ถูกสั่งให้กระทำด้วยใจที่เป็นบุญกุศลหรือใจที่ประกอบด้วย กิเลส-ความโลภ-ความโกรธ-ความหลง เพียงใจสงบนิ่งลงบ้างเราก็เข้าใจตนเองได้มากขึ้นแล้ว ตอนนี้เราจะจะเลือกได้ง่ายขึ้นแล้วซินะว่าเราจะทำในสิ่งดีๆ หรือ.... ต่อไป
ขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านที่ให้ความสำคัญในพระธรรมคำสอนของพระบรมศาสดาและนำมาประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำวันนะครับ .....สังคมเราคงดีกว่านี้แน่....
กราบอนุโมทนาบุญ



ไม่มีความคิดเห็น: