วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

จาริกบุญ ผ้าอาบ 2 วัดพระอจโสภา 4กค63

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว พระอาจารย์โสภา









ธรรมะโอวาทจากพระอาจารย์โสภา 4 ก.ค.63


1.ห้องปลอดเชื้อ
พระอจ.ท่านกำลังทำห้องปลอดเชื้อให้สงฆ์อาพาธ   พระอาพาธระยะสุดท้ายได้อยู่ในวัด ไม่ใช่ในรพ.ปะปนกับญาติโยม
เพราะการอยู่รักษาที่รพ.บางคั้งทำให้พระผิดพระธรรมวินัยได้โดยง่าย การมาอยู่ที่วัดจึงเหมาะสมกว่า  เมื่อรักษาไม่ได้ก็ควรกลับมาอยู่ที่วัด พระธรรมวินัยจำเป็นต้องรักษาไว้แม้ระยะสุดท้ายของชีวิตก็เช่นกัน  ท่านว่าไม่ว่าเป็นพระหรือโยม ให้ทุกคนนำเอาพระพุทธ/พระธรรม/พระสงฆ์เป็นที่พึ่งที่อาศัย ทำเสมอๆจนวาระสุดท้าย


2.น้ำยาล้างจาน
คณะเรานำเอาน้ำยาทำความสะอาดหลายชนิดมาถวายท่าน ท่านให้ข้อคิดว่า น้ำยาเหล่านี้ทำความสะอาดได้เพียงภายนอก เช่นร่างกาย ที่พักเสนาสนะ ฯ  แต่...สิ่งสำคัญที่สุดของเราคือใจ  ธรรมะเท่านั้นที่สามารถจะชะล้างจิตใจให้สะอาดขึ้น ทำให้ความทุกข์ในใจเราลดน้อยลง มีความสุขมากขึ้น สร้างประโยชน์ให้กับเพื่อนมนุษย์และสรรพสัตว์ได้มากยิ่งขึ้น
( สบู่ทำความสะอาดกายภายนอก ให้เอาธรรมมาล้างใจเรา)


3. กรรม / เปรต /อนันตริยกรรม (ที่ทำบุญอยู่เป็นนามธรรม ไม่เห็น แต่จะติดตามไป ส่วนปัจจัยที่หามาเป็นรูปธรรม ตายแล้วเอาไปไม่ได้)เราต้องระวังกายกรรม วจีกรรม มโนกรรมของเราให้ดี เพราะเราจะได้รับผลของกรรมที่ทำแน่นอน  ที่พวกเราหลายคน คิดว่าการมาทำบุญสร้างกุศลนั้นไม่ได้อะไร ไม่สู้ทำงานหาเงินทองซื้อแสวงหาสิ่งที่ต้องการได้  แต่ความเป็นจริงสิ่งที่คิดว่าได้ กลับไม่ได้ สิ่งที่คิดว่าไม่ได้ก็จะได้  เศรษฐี พันหมื่นล้าน ตายไปสลึ่งเดียวก็เอาไปไม่ได้  แต่บุญกุศลนั้นจะติดตัวเราไปได้ตลอดทุกภพช่าติ  เราจึงควรทำแต่กรรมดี จะช่วยสนับสนุนส่งเสริมเราในทุกๆสถานการณ์ เช่นกัน กรรมชั่วที่เราทำก็จะส่งผลให้เราตลอดไปเช่นกัน ท่านยกตัวอย่างกรรมหนักเช่นการทำร้ายบิดามารดา ที่เรียกว่า อนันตริยกรรม จะปิดกั้น บุญกุศลที่เราเคยทำและต้องรับผลกรรมชั่วที่ทำไว้ทันที  ท่านว่าตราบใดมีสติ จงอย่าทำเด็ดขาด  มีเวลามีโอกาส จงตั้งใจทำบุญกุศล ทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ทุกวันเวลาที่เหลืออยู่ ตลอดไป อย่าปล่อยเวลาที่เหลืออยู่โดยเปล่าประโยชน์


4. อริยทรัพย์
พวกเรามุ่งมั่นทำงาน ดำเนินชีวิต กันอย่างหามรุ่งหามค่ำ หมดเวลาไปทั้งชีวิตเพื่อแสวงหาโภคทรัพย์ หาเงินหาทอง เพราะหลงเชื่อว่าสิ่งนั้นนำความสุขมาให้ แต่แล้ว ก็หาเป็นเช่นนั้นไม่ ท่านว่าความสุขในชีวิตนั้น  มีปัจจัยสี่ ใช้จ่ายได้เพียงพอ มีโอกาสทำบุญทำกุศล สร้างสาธารณะประโยชน์ ได้ก็เพียงพอ  ไม่จำเป็นต้องรวยล้นฟ้า มีหน้าตาชื่อเสียงเหนือผู้คน เราก็มีความสุขได้

อริยทรัพย์ คือทรัพย์อันประเสริฐ ที่เราสามารถแสวงหาและนำพาไปยักพบหน้าต่อๆไปได้ สิ่งแรกคือ ความศรัทธา ศรัทธาเป็นตัวนำพาให้ทุกอ่างดำเนินไปได้ ถ้าศรัทธาลด-หมดลง กิเลสก็จะนำทางเรา ทำผิดทำพลาด ทำอกุศล ทำชั่วได้  

ศรัทธา คือ ความเชื่ออย่างมีเหตุผล อย่างถูกต้อง เป็นข้อแรกของอริยทรัพย์ซึ่งควรทำให้มีเกิดขึ้นในใจเรา

เมื่อมี1.ศรัทธา แล้ว ต้องมี2.ศีล มากำกับ มี3.หิริ 4.โอตตัปปะ 5.พาหุสัจจะ 6.จาคะ และ7.ปัญญา ซึ่งจะนำพาเราให้พ้นทุกข์
 ไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป 

ไม่มีความคิดเห็น: